หมอนถักสุดเก๋ “Take a knot”

http://www.rangsitcity.com/static.php?mode=preview&keyword=ake-gym

เด็ก ม. กรุงเทพ โชว์ไอเดียบรรเจิด

ออกแบบผลิตภัณฑ์หมอนถักสุดเก๋ “Take a knot”

Entrepreneurial Marketing Project) หรือ “CEMP” ซึ่งปีนี้ถือเป็นปีที่ 5 โดยมุ่งเน้นให้นักศึกษาได้ลงมือปฎิบัติจริง ทั้งการวางแผนการตลาด การสร้างสรรค์การออกแบบตราสินค้าและบรรจุภัณฑ์ การวางแผนสื่อโฆษณา รวมถึงการวางแผนทางการเงิน

สำหรับคอนเซปการออกแบบผลิตภัณฑ์ในปีนี้คือ “Five one Hand” หรือ “ห้านิ้ว หนึ่งมือ” ที่แสดงถึงการร่วมมือกันของแต่ละนิ้วมือในการสร้างสรรค์ผลงานผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพสู่ผู้บริโภค สำหรับปีนี้น้องๆ ได้มีการออกแบบผลงานที่น่าสนใจทั้งผลิตภัณฑ์ทำความสะอาด ของตกแต่งบ้าน แฟชั่น และอาหาร รวมกว่า 9 แบรนด์ ได้แก่ S-more , Du Fond Succshot , Memo&Deco Me , Kum Zabb , Zenature , Mokoju , Homtor และอีกหนึ่งผลงานที่โดดเด่นด้วยดีไซน์เก๋อย่าง Take a knot

น้องมิ้น-กชพรรณ แต่งศรี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 คณะบริหารการตลาด มหาวิทยาลักกรุงเทพ ตัวแทนจากกลุ่ม Take a knot (เทคอะน๊อค) เล่าว่า “Take a knot คือ หมอนถัก ที่ทีมได้ไอเดียมาจากความต้องการเปลี่ยนสังคมสำเร็จรูป สังคมก้มหน้า ในปัจจุบันให้เป็นสังคม D.I.Y คืออยากให้ทุกคนได้ทำอะไรสนุกๆ กับการออกแบบและสร้างสรรค์ผลงานด้วยมือของตัวเอง โดยเริ่มจากสิ่งใกล้ตัวที่หลายคนมักมองข้ามอย่างหมอนหนุน พร้อมกับตั้งโจทย์ว่าจะทำอย่างไรให้หมอนหนุนธรรมดา เป็นหมอนที่สร้างความสนุก สร้างการมีส่วนร่วม สร้างให้ผู้บริโภคสามารถดีไซน์ที่มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวตามแบบเจ้าของได้ พวกเราจึงนึกย้อนกลับไปถึงความสนุกในวัยเด็กสมัยเรียนลูกเสือ เนตรนารี กับการสร้างสรรค์เชือกธรรมดาให้เป็นเงื่อนต่างๆ ดังนั้นทีมจึงได้นำทั้ง 2 แนวคิดมาผสมผสานกันออกมาเป็นผลงาน “หมอนถัก” มีลักษณ์เป็นหมอนทรงกลมยาว 4 เมตร รูปทรงคล้ายเชือกขนาดใหญ่ ตัดเย็บสองชั้นด้วยผ้าสักหลาก เน้นสีสันสดใส อัดด้วยใยสังเคราะห์คุณภาพสูงเพื่อให้เกิดความแน่และแข็งแรง

โดยผู้บริโภคหรือลูกค้าสามารถนำหมอนดังกล่าวไป ผูก สาน หรือถักให้เป็นทรงต่างๆ ได้ตามแต่การสร้างสรรค์ในแบบของตัวเอง ให้เหมาะสมแก่สถานการณ์การใช้งาน อาทิ การถักเป็นหมอนรองนั่งหรือที่พิงหลังสำหรับหนุ่มสาวออฟฟิต การถักเป็นหมอนหนุนหรือหมอนข้างสำหรับนอนพักอ่านหนังสือ การถักเป็นรูปหัวใจ ดอกไม้ สำหรับมอบเป็นของขวัญในโอกาสต่างๆ หรือใช้เป็นของตกแต่งบ้าน เป็นต้น จะเห็นได้ว่า หมอนถัก Take a knot ถือเป็นหมอนเอนกประสงค์ ที่ทำให้ผู้บริโภคเกิดจินตนาการสร้างสรรค์และเกิดความสนุกกว่าการซื้อสินค้าแบบสำเร็จรูป”

น้องมิ้นยังได้เล่าถึงที่มาสำหรับการตั้งชื่อผลิตภัณฑ์ “มาจากแนวคิดที่ว่าเมื่อเรานึกถึงหมอนเรามักจะนึกถึงการพักผ่อน แต่หมอนของทีมเราไม่ได้สร้างขึ้นมาเพื่อการพักผ่อนเพียงอย่างเดียว มันมีอะไรหลายอย่างตามที่กล่าวมาข้างต้น ดังนั้นเราจึงนำสำนวนที่คุ้นหูของฝรั่งว่า Take a nap หรือ ของีบสักพัก โดยนำคำว่า “Nap” มาเล่นคำกับคำว่า Knot คือการถัก การสานเงื่อน จึงได้ออกมาเป็นชื่อแบรนด์ว่า “Take a knot” มาสนุกกันดี

กว่า”

สำหรับช่องทางการจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์ของกลุ่มแบ่งออกเป็น 2 แนวทางคือ การออกบูธตามศูนย์การค้าต่างๆ และการจำหน่ายผ่านสื่อ Online ได้แก่ facebook : Takeaknot ในราคาใบละ 599 บาท โดยตลอดช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาจำหน่ายได้แล้วกว่า 500 ใบ ซึ่งสำหรับโปรเจคนี้ทีมจะดูตลาดไปเรื่อยๆ และจะผลิตมาอย่างต่อเนื่องหากยังมีกลุ่มผู้บริโภคที่สนใจในสินค้าของ Take a knot

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ คุณกชพรรณ แต่งศรี โทร 093 897 9991