ReadyPlanet.com
หลากวิตามินพิชิตเบาหวาน หยุดน้ำตาลพุ่งสูง ก่อนสายเกินแก้

 หลากวิตามิน พิชิตเบาหวาน หยุดน้ำตาลพุ่งสูง ก่อนสายเกินแก้ (ชีวจิต คู่มือรักษา 3 โรคยอดฮิต เบาหวาน ความดัน หัวใจ)

    โดย จิรโชติ ปิ่นแก้ว 

              วิตามินเป็นหนึ่งในสารอาหารที่มีความจำเป็นอย่างยิ่งต่อร่างกาย จึงได้รับการบรรจุอยู่ในอาหาร 5 หมู่ แม้จะไม่ใช่สารอาหารหลักที่ใช้เสริมสร้างร่างกาย แต่ก็มีส่วนสำคัญในการช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายดำเนินไปได้อย่างปกติ คอลัมน์ ชีวจิต+ฉบับพิเศษ จึงขอนำประโยชน์อันน่าทึ่งของเหล่าวิตามินที่ช่วยพิทักษ์ร่างกายของเราจากโรคเบาหวานมาฝากกันครับ

     ก้าวแรกให้ถูกต้อง ด้วยการรู้จักวิตามิน

              อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต กล่าวว่า วิตามินที่ร่างกายได้รับส่วนใหญ่มาจากอาหารที่เรากินเข้าไป และส่วนหนึ่งร่างกายสังเคราะห์ขึ้นเอง มีหน้าที่ช่วยให้ระบบต่าง ๆ ในร่างกายทำงานได้อย่างถูกต้อง และช่วยให้ดำรงชีวิตอยู่ได้

              ความสำคัญของวิตามินนั้น เมื่อใช้เป็นยาจะต้องรู้จักว่าควรใช้ในปริมาณเท่าไร (ส่วนมากต้องใช้ในปริมาณหรือโดสสูง) ต้องรู้ว่าตัวไหนส่งเสริมกันและตัวไหนเป็นศัตรูกัน ดังนั้น อย่าสุ่มสี่สุ่มห้าไปหามากินเองหรือเชื่อแต่คำโฆษณาอย่างเดียว เพราะอาจทำให้เกิดอันตราย โดยเฉพาะสำหรับผู้ป่วยเบาหวานที่อาจจะไปกระตุ้นระดับน้ำตาล ความดันโลหิตให้สูงขึ้น จนเป็นอันตรายต่อร่างกายได้

              เมื่อรู้จักความสำคัญของวิตามินกันแล้ว ก็จะขอพาทุกท่านเข้าสู่โลกของวิตามินพิชิตโรคเบาหวาน ซึ่งเป็นสูตรจากอาจารย์สาทิสกันครับ




     Did you know?

     วิตามินซี และบี 15 ช่วยป้องกันเบาหวานได้

              วิตามินซีมีสรรพคุณช่วยรักษาและบำรุงภูมิชีวิต ซึ่งถือเป็นเกราะคุ้มกันภัยให้ร่างกายพ้นจากโรคร้ายได้เป็นอย่างดี นอกจากนี้ยังช่วยลดคอเลสเตอรอลและคลายเครียดอันเป็นปัจจัยของโรคเบาหวานได้ พบมากในผักสด ผลไม้สด ใบมะละกออ่อน ผักกระเฉด มะขามป้อม พริก เชอร์รี ฝรั่ง ส้ม ฯลฯ

              วิตามินบี 15 พบมากในยีสต์ เมล็ดพืชต่าง ๆ ข้าวซ้อมมือ มีประโยชน์ต่อกล้ามเนื้อ ตับ สมอง และหัวใจ ช่วยย่อยไขมันและช่วยให้ร่างกายดูดซึมวิตามินอี แพทย์นิยมใช้วิตามินตัวนี้ร่วมกับการรักษาเบาหวานและเส้นเลือดอุดตัน


     วิตามินบี คอมเพล็กซ์

              วิตามินบีคอมเพล็กซ์ (B Complex) หมายถึง วิตามินบีทุกชนิด ได้แก่ บี 1 บี 2 บี 3 บี 6 บี 12 และส่วนประกอบอย่างบี 5 ไอโอดิน (Biotin) โคลีน (Choline) อินอซิทอล (Inositol) กรดโฟลิก (Folic Acid) และพาบา (PABA) ที่นำมาผสมกัน

    ประโยชน์

               ช่วยในการย่อยหรือแตกตัวของคาร์โบไฮเดรตให้กลายเป็นกลูโคส

               ช่วยในการย่อยหรือแตกตัวของโปรตีนและไขมัน

               ช่วยให้กล้ามเนื้อในกระเพาะอาหารและลำไส้ทำงานได้ดีขึ้น

              จะเห็นได้ว่า สรรพคุณของวิตามินบีคอมเพล็กซ์สามารถช่วยลดและควบคุมคอเลสเตอรอลและไขมัน ซึ่งเป็นศัตรูตัวฉกาจของผู้ป่วยโรคเบาหวานได้ ไม่เพียงเท่านั้น ยังช่วยเสริมสร้างภูมิชีวิต ซึ่งอาจารย์สาทิสย้ำว่า เป็นหัวใจของการต้านทานโรคร้ายไม่ให้เข้าสู่ร่างกาย นอกจากนี้ยังช่วยลดความเครียดอันเป็นตัวกระตุ้นชั้นเลิศให้อาการของผู้ป่วยเบาหวานกำเริบได้อีกด้วย

              อาจารย์สาทิสแนะนำปริมาณของวิตามินบีคอมเพล็กซ์ที่ควรกินไว้ว่า สามารถทำได้ง่าย ๆ เพียงกินอาหารตามสูตรชีวจิต ก็จะได้รับวิตามินชนิดนี้อย่างครบถ้วน แต่หากใช้เป็นยา ต้องกินถึงวันละ 3,000-5,000 มิลลิกรัมเลยทีเดียว

              อาจารย์สาทิส อินทรกำแหง ได้เตือนไว้ในหนังสือ ปั้นชีวิตใหม่ด้วยชีวจิต เล่ม 1 สำนักพิมพ์คลินิกสุขภาพ ว่า ไม่จำเป็นต้องซื้อวิตามินกินทุกตัว เพราะหากกินอาหารอย่างถูกต้อง (โดยเฉพาะตามสูตรชีวจิตทีแนะนำไว้) ก็จะไม่ขาดวิตามินเลย แต่สำหรับคนที่อายุตั้งแต่ 40 หรือ 50 ปีขึ้นไป และอยู่ในสิ่งแวดล้อมซึ่งมีผลภาวะเป็นพิษ ควรกินวิตามินกลุ่มแอนตี้ออกซิแดนท์วันละ 1 เม็ดแยกชนิดกันไม่ควรกินแบบวิตามินรวม




    อาหารที่มีวิตามินบี 3

     วิตามินบี 3

              วิตามินบี 3 หรือไนอะซิน (Niacin) ถูกวงการแพทย์มองข้ามความสำคัญมาเป็นเวลานานหลายสิบปี แต่ปัจจุบันได้รับความสนใจมากขึ้นในการนำมาต่อสู้กับภาวะคอเลสตอรอลในเลือดสูง

    ประโยชน์

               ช่วยทำลายพิษหรือท็อกซินจากมลพิษ แอลกอฮอล์ และยาเสพติด

               ช่วยให้อาการต่าง ๆ ของผู้ป่วยโรคเบาหวานดีขึ้น

               ช่วยในการสร้างอินซูลิน

               ลดคอเลสเตอรอลและไตรกลีเซอไรด์ (ไขมันในเลือดและไขมันทั่วไป)

              ปกติร่างกายเราจะสามารถสร้างวิตามินชนิดนี้ขึ้นมาเองได้ แต่หากขาดวิตามินบี 1 บี 2 และบี 6 ก็ไม่สามารถสร้างบี 3 ขึ้นมาได้ และเมื่อร่างกายขาดวิตามินตัวนี้ ก็จะทำให้การสร้างฮอร์โมนอินซูลินน้อยลง ซึ่งจะส่งผลกระทบต่อผู้ป่วยเบาหวานอย่างมหาศาล

              จะเห็นได้ว่า วิตามินบี 3 มีผลกระทบโดยตรงต่ออาการของโรคเบาหวาน จึงจัดเป็นวิตามินสำคัญที่ผู้ป่วยเบาหวานขาดไม่ได้ โดย นายแพทย์เซลดอน ซอล เฮ้นเลอร์ กรรมการที่ปรึกษาของ Board of Medical Advisers ของอังกฤษเห็นควรว่า สามารถกินวิตามินบี 3 เสริมได้ตั้งแต่วันละ 100-2,000 มิลลิกรัม

              การกินวิตามินบี 3 ชนิดเม็ดตั้งแต่ 500 มิลลิกรัมขึ้นไป จะรู้สึกร้อนผ่าวที่หน้าและคันตามตัว และหากกินยาปฏิชีวนะอยู่ด้วย อาการร้อนหน้า และคันจะมีมากขึ้น ซึ่งทั้งหมดนี้ล้วนไม่มีอันตรายใด ๆ รอสักครึ่งชั่วโมงอาการก็จะหายไปเอง หรือให้ลองอาบน้ำเย็น ๆ ก็จะช่วยได้

              อย่างไรก็ตาม ข้อควรระวังในการกินวิตามินบี 3 คือ วิตามินชนิดนี้มีศัตรูตัวฉกาจ ได้แก่ เหล้า แอลกอฮอล์ ยากันบูดในอาหารทุกชนิด ยาซัลฟา ยานอนหลับ และฮอร์โมนเอสโทรเจน จึงควรหลีกเลี่ยงปัจจัยเหล่านี้ขณะกันวิตามิน

              วิตามินบี 3 สามารถหาได้จากข้าวทุกชนิดที่ไม่ขัดขาว อาทิ จมูกข้าว รวมถึงรำ ยีสต์ ถั่วลิสง อะโวคาโด มะเดื่อ ลูกพรุน อินทรผลัม มันฝรั่ง ใบยอ และเนื้อปลา

              อาหารชีวจิตสูตร 2 ของอาจารย์สาทิส อินทรกำแหง กูรูต้นตำรับชีวจิต จากหนังสือ กูไม่แน่ สำนักพิมพ์อมรินทร์สุขภาพ หน้า 58 เหมาะกับการป้องกันโรคเบาหวานเป็นอย่างยิ่ง เพราะลดปริมาณคาร์โบไฮเดรต และเพิ่มอาหารจำพวกผักและโปรตีน ซึ่งล้วนแต่ช่วยลดระดับน้ำตาลในเลือดทั้งสิ้น โดยมีสูตรดังนี้

               กินข้าวกล้อง ข้าวแดง หรือข้าวซ้อมมือ หรือถ้าชอบขนมปังก็กินขนมปังโฮลวีท ปริมาณรวมกันแล้วให้ได้ 30 เปอร์เซ็นต์ของอาหารแต่ละมื้อ

               กินผักสดและผักปรุงสุกอย่างและครึ่ง รวมกันแล้ว เป็นปริมาณ 35 เปอร์เซ็นต์ของอาหารแต่ละมื้อ

               กินโปรตีนจากพืช คือ ถั่วต่าง ๆ หรือผลผลิตจากทั่ว รวมถึงเต้าหู้ รวมแล้ 25 เปอร์เซ็นต์ของอาหารแต่ละมื้อ อาจเพิ่มปลาหรืออาหารทะเลได้สัปดาห์ละ 2 ครั้ง

               กินอาหารเบ็ดเตล็ด เช่น สาหร่ายทะเล เมล็ดทานตะวัน เมล็ดฟักทอง ผลไม้ไม่หวาน ในปริมาณ 10 เปอร์เซ็นต์ของอาหารแต่ละมื้อ




    อาหารที่มีวิตามินบี 6


     วิตามินบี 6

              วิตามินบี 6 หรือเรียกอีกชื่อว่าไพริดอกซีน (Pyridoxine) เป็นวิตามินที่มักใช้ร่วมกับบี 1 และบี 12 จะทำให้ได้ผลดียิ่งขึ้น โดยร่างกายต้องการวิตามินชนิดนี้ประมาณ 1.5 มิลลิกรัม

    ประโยชน์

               ช่วยเปลี่ยนกรดอะมิโนให้เป็นวิตามินบี 3 ซึ่งมีประโยชน์ในการบรรเทาอาการของโรคเบาหวาน

               ช่วยให้ร่างกายมีภูมิต้านทานแอนติบอดีและช่วยสร้างเซลล์เม็ดเลือด

               ลดคอเลสเตอรอลในเลือด

               ช่วยเผาผลาญแป้งและน้ำตาล

               ช่วยย่อยโปรตีนและไขมัน

               ช่วยขับปัสสาวะ ซึ่งเป็นอีกทางที่ช่วยขับน้ำตาล ส่วนเกินออกจากร่างกายได้เป็นอย่างดี

              สำหรับผู้ป่วยเบาหวาน ควรกินวิตามินบี 6 เพื่อปรับอัตราการใช้อินซูลินให้ได้ตามสัดส่วนของน้ำตาลในเลือด และควรกินวิตามินบี 6 ควบคู่ไปกับบี 3 จะเกิดประโยชน์สูงสุดในการป้องกันโรคเบาหวาน

              วิตามินชนิดนี้สามารถพบได้ในรำข้าว จมูกข้าว แคนตาลูป กะหล่ำปลี ข้าวโพด และยีสต์




    อาหารที่มีวิตามินอี

     วิตามินอี

              วิตามินอี (Tocopherol) เป็นวิตามินที่ช่วยในการทำงานของระบบต่าง ๆ ในร่างกายหลายระบบ จึงถือเป็นวิตามินตัวสำคัญที่สุดที่ร่างกายจะขาดไม่ได้เลย และเป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ ช่วยให้เซลล์ต่าง ๆ รอดอันตรายจากท็อกซินได้อีกด้วย

    ประโยชน์

               หน้าที่สำคัญที่สุดคือ เป็นแอนตี้ออกซิแดนท์ ทำให้เกิดการเผาผลาญ (Oxidation) โดยมีออกซิเจนเป็นตัวการสำคัญ ทำให้ร่างกายเผาผลาญได้ดียิ่งขึ้น

               เป็นตัวช่วยโขไขกระดูกในการสร้างเลือด ช่วยขยายเส้นเลือดด้านการแข็งตัวของเลือด และลดความสามารถในการจับตัวเป็นลิ่มเลือด จึงทำให้เลือดไหลเวียนในร่างกายได้ดี

               บำรุงตับซึ่งทำหน้าที่เกี่ยวกับเลือดมากมาย

               ช่วยให้ระบบสืบพันธุ์ เซลล์ประสาท และกล้ามเนื้อทำงานได้ตามปกติ

               ช่วยให้ปอดทำงานได้ดีขึ้น ไม่อ่อนเพลียง่าย

              จะเห็นได้ว่า วิตามินอีนั้นมีคุณสมบัติในการช่วยกระตุ้นระบบเผาผลาญในร่างกาย ซึ่งมีผลต่อการควบคุมน้ำตาลโดยตรง ทั้งยังส่งผลต่อระบบการทำงานอื่น ๆ ในร่างกายด้วย จึงเป็นวิตามินอีกชนิดหนึ่งที่ผู้ป่วยควรกินเป็นประจำ

              วิตามินอีนั้นเป็นวิตามินประเภทน้ำมันหรือละลายในไขมัน โดยร่างกายจะเก็บไว้ในตับ ไขมัน หัวใจ กล้ามเนื้อ ลูกอัณฑะ มดลูก โลหิต ต่อมอะดรีนัล และต่อมพิทูอิทารี มีรูปแบบของน้ำมันแตกต่างกันถึง 7 ประเภท แต่ที่ได้ชื่อว่ามีคุณภาพสูงสุดในด้านความเป็นอาหารและยาคือ ประเภทแอลฟา (Alpha Tocopherol) ซึ่งสกัดจากน้ำมันพืช เมล็ดพืช ถั่ว ถั่วเหลือง จมูกข้าว

              อย่างไรก็ตาม วิตามินอีจะถูกทำลายได้ด้วยความร้อน ออกซิเจน อากาศเย็น สารกันบูด ธาตุเหล็ก คลอรีน และน้ำมันจากโลหะ จึงควรหลีกเลี่ยงการเก็บวิตามินสกัดไว้ใกล้กับปัจจัยเหล่านี้ เพื่อป้องกันวิตามินเสื่อมสลาย และมีข้อควรระวังคือ ไม่ควรกันในปริมาณที่มากเกินไป เพราะอาจเกิดความดันโลหิตสูงได้ โดยให้กินขนาดเม็ดละ 400 ไอยู วันละ 2 เม็ด เช้า-เย็น เท่านั้นก็เพียงพอแล้ว

              อาหารที่อุดมไปด้วยวิตามินอี ได้แก่ รำละเอียด ธัญพืช ข้าวโพด ถั่วแดง ถั่วเหลือง ผักกาดหอม เมล็ดทานตะวัน งา น้ำมันรำข้าว และน้ำมันถั่วเหลือง

              อย่าลืมนะครับว่า วิตามินไม่ใช่ยาวิเศษที่ใช้ทดแทนอาหาร แต่เป็นเพียงยาบำรุงที่ช่วยส่งเสริมการทำงานและภูมิชีวิตของร่างกายเท่านั้น ดังนั้น การกินอาหารให้ครบ 5 หมู่จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดที่จะปกป้องร่างกายเราให้พ้นจากโรคภัยต่าง ๆ ได้ครับ



สุขภาพ

เทคนิคโพสต์ท่าให้ดูผอม แค่ขยับนิด ชีวิตก็เปลี่ยน ผอมลงเห็นๆ! article
ดูแลสุขภาพของลูกน้อยง่าย ๆ ด้วยอาหารเช้า
สารพัดวิธีรักษาไข้หวัดจากธรรมชาติ ดีจริงหรือไม่ เช็กด่วน
อาหารต้านมะเร็ง 5 ชนิด ทานป้องกันโรคร้าย
เคล็ดลับการดูแลผิว สำหรับทุก ๆ วัน article
10 สุดยอดเทคโนโลยีเพื่อความงาม
ขยี้ตาบ่อย ทำให้เกิดริ้วรอยจริงหรือ... ?
เทรนด์แต่งหน้า 2015 สไตล์ไหนมาแรง เช็กด่วน ! article
ผิวแห้ง กับพฤติกรรม 5 ข้อที่รู้แล้วเลี่ยงด่วน !
หลากข้อดีจาก เซ็กส์ ต่อสุขภาพที่ผู้ชายควรรู้
น้ำผึ้งล้างหน้าเวิร์คจริงป่ะ ? มาดูผลการทดลองกัน
แต่งหน้ารับปริญญาแบบไม่ง้อช่าง สวยด้วย ! ประหยัดด้วย !
ตะไคร้ กับ 3 ประโยชน์ที่ช่วยในเรื่องความงาม
น้ำนม กับ 5 คุณประโยชน์ช่วยผิวสวย
กินมะละกอผิวสวย สารพัดประโยชน์เนียนใสจากภายในสู่ภายนอก
มันฝรั่ง กับ 7 สูตรเด็ดบำรุงผิวพรรณและเส้นผม
เตรียมผิวพร้อมรับหน้าหนาว ด้วยหลายทริคสุดแจ๋ว article
กำจัดสิวแบบเร่งด่วน ด้วยวิธีธรรมชาติ article
7 ความเชื่อผิด ๆ เกี่ยวกับอาหารที่คนลดความอ้วนหลงเชื่อ
ไปเล่นโยคะหัวเราะกันเถอะ!
ถุงยาง แบบที่คุณผู้ชายต้องลอง
โยเกิร์ต กับ 6 คุณประโยชน์ในด้านความงาม article
สธ. สั่งทุกโรงพยาบาลสำรองเซรุ่มแก้พิษงู 7 ชนิด ช่วงหน้าฝน article
อีโบลา เจาะลึกไวรัสมรณะที่โลกหวาดกลัว
สีแดงกับสมอง ความเชื่อมโยงอันน่าอัศจรรย์ที่คุณไม่เคยรู้
ประโยชน์ของน้ำมะนาว ดื่มอุ่น ๆ ยามเช้า ดีแค่ไหนต้องพิสูจน์
อยากลดน้ำหนัก แต่ติดขนมหวาน ทำไงดี
5 อาหารดี ๆ ที่กินเยอะไป ก็ไม่ดีได้เหมือนกัน
ดูฟุตบอลโลกอย่างไร ไม่ทำร้ายสุขภาพ article
ผื่นยอดฮิตที่พบบ่อยในฤดูฝน article
โกรธเมื่อไร หลีกให้ไกล 10 พฤติกรรมนี้
9 สูตรลดน้ำหนัก วิธีลดความอ้วน สำหรับสาวอยากผอม article
สธ. เตือนกินไข่แมงดาทะเลเผา-ยำหน้าร้อนเสี่ยงตาย
เทคนิคกินผักให้อร่อย ทั้งปลอดภัย ทั้งได้คุณค่า
อยากอ่อนเยาว์ดื่มนมถั่วเหลืองสิ
ผลไม้ลดน้ำหนัก 13 ตัวช่วย อยากหุ่นสวยกระชับห้ามพลาด
วิ่ง เริ่มจากความพร้อม สู่เส้นทางสุขภาพดี
ร้อนนี้กินอย่างไร เย็นทั้งกาย สุขทั้งใจ article
วิธีไล่ยุงแบบธรรมชาติ ด้วยมาตรการปลอดภัย article
รู้หรือไม่ ยาคุมฉุกเฉิน กินพร้อมกัน2เม็ดได้ article
รักอย่างไร ถึงเรียกว่า รักเป็น article
‘วิ่ง’ เริ่มจากความพร้อม สู่เส้นทางสุขภาพดี
12 ไอเดียเปลี่ยนน้ำแข็งแนวใหม่ให้ไฉไลกว่าเดิม article
ขนมหวานไทย ๆ เลือกกินอะไร ไม่ให้แคลอรี่พุ่งปรี๊ด article
เปิดปีเริ่ด ๆ ด้วย 6 วิธีสู่ความแฮปปี้กว่าเดิม
เคล็ดลับดูแลสุขภาพให้ห่างไกลไข้หวัดใหญ่
ใช้ชีวิตอย่างไร ให้หัวใจแข็งแรง
ร่างกาย-รถ-อุปกรณ์พร้อม...เพิ่มความปลอดภัยในการเดินทาง article
วาซาบิความเผ็ดที่มีประโยชน์
ไวรัสโรต้า" ระบาดหน้าหนาว เสี่ยงท้องร่วงทุกวัย
กระเช้าปีใหม่ เลือกอย่างไร ให้ดีต่อสุขภาพคนรับ article
แนะหากเครียดควรปรับทุกข์กับคนใกล้ชิด
หยุดเอดส์! ต้องมองเรื่อง 'เพศ' อย่างเข้าใจ
6 ความเชื่อผิด ๆ เรื่องสุขภาพกับหน้าหนาว
3 ประโยชน์เลิศของโยเกิร์ต ไม่ได้โม้ !
ไม่ใช่วัยรุ่น ฮอร์โมนก็ป่วนได้นะ !
นอนดึกแก่ไว เรื่องจริงไม่ได้โม้ !!
แนะวิธีเลือกซื้อนมพร้อมดื่ม ป้องกันนมบูดก่อนบริโภค
ขับไล่ความเหนื่อยล้าด้วย 7 วิธีผ่อนคลายหลังเลิกงานของสาว ๆ
ความสวยยังเพิ่มได้ แล้วความสูงเพิ่มได้ไหม ?! article
ยาลดความอ้วนสูตรค็อกเทล อย. สั่งห้ามขาย ชี้อันตรายถึงชีวิต
เบต้าแคโรทีน เพื่อหัวใจและสุขภาพที่แข็งแรง
ใส่ใจการกินสักนิด พิชิตมะเร็งเต้านม
สธ. เตือน 6 โรคหน้าหนาว ระวังดื่มเหล้าคลายหนาว อันตรายถึงชีวิต article
เตือน ! ระวังป่วยโรคปอดบวม ช่วงปลายฝนต้นหนาว article
9 สุดยอดอาหารชวนให้ สดชื่น อารมณ์ดี article
9 เมนูฮิตครองใจคนทำงาน กินแบบไหนถึงสุขภาพดี article
กินดีรักษาสิวได้ ด้วยวิธีกินรักษาสิวให้หายใน 2 สัปดาห์
10 เคล็ดลับ...หลับปุ๋ย แก้ปัญหานอนไม่หลับ
พื้นที่ส่วนตัวของผู้หญิง...เรื่อง (ไม่) ลับที่คุณต้องรู้ !
8 ประโยชน์เจ๋ง ๆ จากเปลือกผักและผลไม้
เปลี่ยนกับข้าว ให้เป็นงานอาร์ตชั้นเอก ได้สุขภาพ article
สภากาชาดขาดเลือดด่วนช่วงน้ำท่วม article
อยู่พอเพียง บริโภคพอดี’ สู่ความมั่นคงทางอาหาร
แนะ 7 ขั้นตอนล้างมืออย่างถูกวิธี
หลักออกเจอย่างถูกวิธี ทานอาหารอย่างไรดีต่อสุขภาพ
สารพัดวิธีกินผักแบบเนียน ๆ อร่อยไม่ฝืนใจแถมได้ประโยชน์
ป้องกันและดูอาการเชื้อไวรัสชนิด A สายพันธุ์ H1N1
เคล็ดลับการถนอมดวงตาให้สวยสดใส
วิธีง่าย ๆ ในการเผาผลาญแคลอรีนอกยิม
เคล็ดลับการกินเพื่อให้มีรูปร่างเหมือนนายแบบ
'ผื่นภูมิแพ้-น้ำกัดเท้า' แก้ได้...แม้ 'ฝนตก'
โปรตีนเกษตรในอาหารเจรู้ไมทำมาจากอะไร
ปราบกลิ่นเท้าให้อยู่หมัด
รักษาอาการไอแบบไม่พึ่งยา ด้วยธรรมชาติบำบัด
สาธารณสุขชี้ คนไทยเตี้ย เพราะดื่นนมน้อย
ไอนานเกิน 2 สัปดาห์ สาเหตุมาจากหลายโรค
ยุคของแพง กินอย่างไร ได้ประโยชน์และสุขภาพดี
อึ้ง ! แท็บเล็ต-สมาร์ทโฟนเชื้อโรคอื้อ มากกว่าโถชักโครก 20 เท่า
ท้องอืดท้องเฟ้อบ่อยๆ ไม่ใช่เรื่องเล่นๆ
ยิ่งเดิน ยิ่งดีต่อสุขภาพ
น้ำหนักควบคุมได้ ทำไมต้องพึ่งยาลดความอ้วน
เรื่องของยาแก้ไข้ ใช้ตัวไหนปลอดภัยที่สุด
โคเอนไซม์ คิว 10 กินกันไปทำไม?
ไข้เลือดออก โรคตัวร้ายที่มียุงลายเป็นพาหะ article
มือชา อาการไม่ธรรมดาที่อาจเกิดขึ้นกับคุณ
4 สิ่งเหล่านี้...อาจไม่ดีต่อจุดซ่อนเร้นสาว ๆ นะจ๊ะ
ดื่มซะให้สวย กับ 5 เครื่องดื่มเพื่อผิวสวยใส สุขภาพดี
ผิวสวยด้วยการกิน กับ 10 อาหารเพิ่มความนุ่มสวยใส